- ใช้ชื่อซอฟท์แวร์ว่า Master5 สามารถควบคุมได้ 4 แกน ถูกเผยแพร่เมื่อต้นปี 1998 สำหรับรันบน Windows 98, Me
- ใช้ชื่อซอฟท์แวร์ว่า Mach1 กับความเร็วสูงสุดของคอร์เอ็นจิ้นที่ 25000Hz 6 แกน ได้ถูกเผยแพร่ในต้นปี 2000 รันบน Windows Xp และ 2000
- ใช้ชื่อซอฟท์แวร์ว่า Mach2 กับความเร็วสูงสุดของคอร์เอ็นจิ้นที่ 45000Hz 6 แกนได้ถูกเผยแพร่ในต้นปี 2002 รันบน Windows Xp และ 2000
- ใช้ชื่อซอฟท์แวร์ว่า Mach3 กับความเร็วสูงสุดของคอร์เอ็นจิ้นที่ 100000HZ 6 แกน ได้ถูกเผยแพร่ปลายปี 2004 – ปัจจุบัน รันบน Windows Xp, 2000 และ Vista
- ใช้ชื่อซอฟท์แวร์ Mach4 เป็นโครงการที่ได้พัฒนาร่วมกับบริษัทผลิตตัวขับมอเตอร์ Gecko แต่สุดท้ายคุณสมบัติต่างๆกลับถูกไปรวมไว้ใน Mach 3
- ใช้ชื่อซอฟท์แวร์ Quantum รุ่นในอนาคตอยู่ในขั้นพัฒนา จุดเด่นคือการเดินเครื่องที่เรียบและนิ้มนวลมากขึ้น
 |
| รูปลักษณ์หน้าของซอฟต์แวร์ MACH 3 คุณสมบัติและหน้าที่ๆมาคสามมีดังนี้
* ทำการแปลงให้เครื่องคอมพิวเตอร์พีซีมาตรฐานให้เป็นเครื่องควบคุมซีเอนซี 6 แกนมาคสามสามารถรองรับจีโค้ดและขับเคลื่อนแกนต่างๆ ถึง 6 แกนพร้อมๆกัน * อนุญาตให้ทำการอิมพอร์ทไฟล์ DXF, BMP, JPG, และ HPGLโดยผ่านซอฟท์แวร์ LazyCam ในรุ่นก่อนหน้านี้คือมาคสองคุณสมบัติการอิมพอร์ทไฟล์นี้อยู่ด้วยกันกับโปรแกรมหลัก แต่ในรุ่นมาคสามความสามารถอันนี้ถูกแยกไปไว้รวมกันกับซอฟท์แวร์ LazyCam * แสดงจีโค้ดหรือทูลพาธในรูปแบบกราฟฟิกในแบบสองและสามมิติ :- ฟีเซอร์ข้อนี้มีประโยชน์มากสำหรับดูเส้นทางเดินดอกกัด (tool path) เพื่อช่วยตรวจสอบตำแหน่งชิ้นงานในช่วงของการตั้งและใช้ดูงานกัดแบบเรียลไทม์ขณะที่เครื่องทำงานในกรณีที่ต้องหยุดงานโดยความตั้งใจหรือเกิดจากอุบัติเหตุเช่นดอกกัดหักเราสามารถสกรอล์คำสั่งจีโค้ดในช่องแสดง G-code และสังเกตการณ์วิ่งของเส้นไฮไลท์ของกราฟิกทูลพาธ ทำให้สามารถกลับมากัดงานตำแหน่งเดิมได้อย่างรวดเร็ว ขอบคุณที่มาข้อมูล : http://engineeringknowledgenew.blogspot.com |
